ฝึกพูดภาษาอังกฤษ จากละครพรหมลิขิต (ภาคต่อ บุพเพสันนิวาส)

ละครเรื่องพรหมลิขิต หรือภาคต่อของละครเรื่องบุพเพสันนิวาส กลับมาฟีเว่อร์อีกครั้ง เพราะเป็นละครที่นำเสอนในเรื่องของประวัติศาสตร์ไทยให้น่าตื่นเต้น สนุกสนาน เหมาะกับทุกเพศทุกวันแล้ว ยังมีการสอดแทรกคำศัพท์ภาษาอังกฤษเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะกับตัวละครของลูกแม่การะเกด อย่าง พ่อเรือง พ่อริด แม่แก้ว แม่ปราง ที่เริ่มใช้ภาษาอังกฤษกันบ่อยมากขึ้น และยังมีบทสนทนาง่าย ๆ ใช้คำศัพท์ไม่กี่คำก็ทำให้สื่อสารระหว่างตัวละครในการพูดสั้นๆ ไม่ได้เน้นแกมม่ามากนัก
 
ซึ่งนี่เป็นอีกวิธีของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ที่ผู้เรียนเพลิดเพลินไปกับตัวละครที่คุณรัก และคุณสามารถใช้เพื่อปรับความสนใจของคุณในการเรียนภาษาอังกฤษ โดยวันที่เราได้รวบรวมคำศัพท์ไว้ดังนี้

destiny (พรหมลิขิต)

คำศัพท์นี้ใช้ในการตั้งชื่อเรื่อง ซึ่งหมายถึงความรักของตัวละครในเรื่องที่ถึงแม้จะอยู่คนละยุคสมัยแต่ก็มาเจอกันได้เพราะพรหมลิขิต
– you are my destiny คุณคือพรมลิขิตของฉัน

Fate (โชคชะตา)

คำศัพท์ใกล้เคียงกับคำว่า Destiny ซึ่งในที่นี้จะหมายความว่าโชคชะตาทำให้พุดตานได้มาเจอพ่อริด โดยจะใช้เป็นประโยคดังนี้
– Fate has brought us here (โชคชะตานำพาเรามาที่นี่)

OK (ตกลง)

ในบทละคร จะให้คำนี้บ่อยมาก เพราะเป็นคำศัพท์ง่ายๆ ที่ความหมายครอบคลุมในเรื่องที่เอ่ยถึง และคนไทยในปัจจุบันใช้กันจนติดปาก  

Sure (แน่นอน)

โดยทั่วไป “Sure” เป็นคำที่ใช้เพื่อแสดงความยินยอมหรือเห็นด้วยอย่างเชิญชวนและเป็นการตอบรับในสถานการณ์หลาย ๆ แบบในการสื่อสารประจำวัน

luck (โชค)

หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด และอาจเป็นบวกหรือลบก็ได้ คุณใช้คำนี้เมื่อคุณรู้สึกว่าความเป็นไปได้มีส่วนของโชค ไม่ว่าจะเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี เช่น
– Good luck (โชคดี) หรือ Unlucky (โชคร้าย)

try again (ลองอีกครั้ง)

หมายถึง “ลองอีกครั้ง” หรือ “พยายามอีกครั้ง.” คำนี้ใช้เมื่อคุณต้องการให้คนอื่นหรือตัวเองลองทำอะไรบางสิ่งอีกครั้งหรือพยายามอีกครั้งหากผลลัพธ์ก่อนหน้านั้นไม่ถูกต้องหรือไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งในละครจะเป็นฉากที่พ่อริดบอกให้แม่แก้วซ้อมยิวยิตสู กับตัวเองอีกครั้ง

open air (เปิดโล่ง)

คำนี้จะเป็นคำที่พุดตาลใช้ตอนที่จะต้องเข้าห้องน้ำครั้งแรก ซึ่งในสมัยนันไม่ได้มีห้องน้ำ ถ้าจะขับถ่ายจะต้องไปขับถ่ายในป่าซึ่งเป็นสถานที่เปิดโล่ง ไม่มิดชิดนั่นเอง

“ไซต์งาน” มาจากคําว่า (Job site)

คำนี้จะได้ยนบ่อยๆในช่วงต้นของเรื่องที่ทางนางยังไม่ได้ข้ามภพมา ซึ่งหมายถึงสถานที่ตั้งในการทำงานของพุดตานนั่นเอง

“บอยแบรนด์” (boy band)

ในละครเรื่องนี่หมายถึง ขุนหลวงท้ายสระกับทหารคู่ใจ ที่ประกอบด้วย หมื่นริด , หลวงชิดภูบาล , พระยาราชนุกูล , จมื่นศรีสรรักษ์ , หมื่นจันภูเบศร์ ซึ่งในละครทั้ง 6 คนจะไปไหนด้วยกัน เลยเปรียบว่าเป็นบอยแบรนด์ในสมัยอยุธยา

let’s go (ไปกันเถอะ)

ในละครจะเป็นคำศัพท์ที่แม่พุดตานพูดเพื่อให้ทุกคนเริ่มทำงานสร้างบ้าน เลยใช้คำว่า let’s go ซึ่งในที่นี่อาจหมายถึงเริ่มลงมือกันเลย

let’s start (เริ่มกันเลย)

ความหมายว่า “มาเริ่มเลย” หรือ “มาเริ่มดำเนินการ” และใช้เพื่อเริ่มทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือเริ่มทำบางสิ่งในบริบทที่กำหนด คำนี้ใช้ในบริบทที่เกี่ยวกับการเริ่มทำงาน, กิจกรรม, หรือโครงการใหม่ ๆ โดยเชิญชวนหรือเรียกร้องให้ผู้อื่นร่วมเริ่มดำเนินการ