ศอ.บต เตรียมนำ คณะฑูต จากประเทศโลกมุสลิม หรือ oic ลงพื้นที่ เยี่ยมชมสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก จ.นราธิวาส สัญลักษณ์ ความร่วมมือไทย-มาเลเซีย คาด สามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนได้ในอนาคต
พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต เปิดเผยว่า ในวันที่ 11-13 มิถุนายน 2567 ที่จะถึงนี้ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีโอกาสต้อนรับ คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมจำนวน 12 ท่าน ภายใต้กิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจและสานสัมพันธ์คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิมประจำปี 2567 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการต่างประเทศ และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปยังกลุ่มประเทศมุสลิมและทั่วโลก โดยในครั้งนี้ คณะฑูตจะได้เดินทางลงพื้นที่ ที่สะพานโก-ลก หรือ สะพานรันเตาปันจัง – สุไหงโก-ลก เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโกลก ที่เชื่อมระหว่างเมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ประเทศไทย ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 ตามมติข้อเสนอแนะของคณะกรรมการการขนส่งและโทรคมนาคมอาเซียน ในการประชุมระดับรัฐมนตรีของอาเซียน ครั้งที่ 2 ณ กรุงจาร์กาต้า และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2516 ปัจจุบันเปิดใช้งานมาแล้วเป็นระยะเวลา 51 ปี ซึ่งถือเป็นสะพานที่มีความสำคัญในด้านการพัฒนาเศษฐกิจและด้านการขนส่งคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียมาอย่างยาวนาน ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 ประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย มีการขยายการค้า การลงทุนร่วมกันเพิ่มมากขึ้น จึงเริ่มศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างสะพานคู่ขนานเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
ในปี พ.ศ. 2552 ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันให้มีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกคู่ขนานกับสะพานเดิม ภายใต้กรอบความร่วมมือว่าด้วยยุทธศาสตร์ในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย (Thailand – Malaysia Committee on Joint Development Strategy for border areas : JDS) แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย Indonesia Malaysia Thailand Growth Triangle : IMT – GT โดยจัดตั้งงบประมาณก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท (รับผิดชอบค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง) รูปแบบสะพานคู่ขนาน ชนิด Post tension T Beam& RC. Beam ความกว้าง 14 เมตร ความยาว 116 เมตร มีแนวคิดการออกแบบ รูปทรงเรือ
ปัจจุบันโครงการก่อสร้างฯ อยู่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบโครงสร้างสะพาน การสำรวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ถือเป็นการประสานความร่วมมือระหว่าง กรมทางหลวง ประเทศไทย และกรมโยธาธิการ ประเทศมาเลเซียร่วมกัน จึงเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศที่เชื่อมโยงกัน ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การคมนาคม และการขนส่ง เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ประเทศไทยจะสามารถพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ถือเป็นประโยชน์อันดีร่วมกันในการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ โครงการสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่อำเภอสุไหงโก-ลก ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียที่เชื่อมโยงกันในการร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและการขนส่ง เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศในอนาคต ดังนั้น การนำเสนอข้อมูลดังกล่าว เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม ในโอกาสเดินทางมาร่วมกิจกรรมเสริมสร้างความเข้าใจและสานสัมพันธ์คณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2567 ณ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ให้ทราบถึงแนวทางการผลักดันโครงการสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ จะส่งผลให้มีศักยภาพในเวทีโลกเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามขณะนี้สะพานข้ามแม่น้ำโกลกปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยความร่วมมือในการดำเนินการต่อไป
ที่มา ข่าวศอ.บต.