ชาร์จแบต ในรถ แบตเสื่อม จริงหรือไม่
เพื่อนๆ คงเคยเห็นข่าวอุบัติเหตุระเบิดหรือไฟไหม้จากการ ชาร์จแบต มือถือในรถกันมาบ้างใช่ไหมครับ แม้ว่าอันตรายจากเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่จำนวนคนที่ชาร์จมือถือในรถนั้นมีเป็นจำนวนมาก วันนี้เราจึงจะพาไปล้วงลึกถึงคำตอบกันก่อนว่า ชาร์จแบตในรถ แบตเสื่อม จริงหรือไม่ แล้วอะไรคือ เหตุผลที่แท้จริงที่เราไม่ควรชาร์จแบตมือถือในรถ หรือถ้าหากจำเป็นจะต้องชาร์จแบตจริงๆ ควรคำนึงถึงเรื่องใดบ้างเพื่อให้เพื่อนๆ สามารถชาร์จแบตมือถือในรถได้อย่างปลอดภัย
เรื่องแบตเสื่อมจาก ที่ชาร์จแบตรถยนต์ นั้น ต้องแยกกันก่อนระหว่างแบตเตอรี่รถยนต์ และแบตโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการ ชาร์จแบตมือถือในรถ ก็อาจเกิดผลเสียได้กับทั้ง 2 อย่าง
ผลเสียจากการ ชาร์จแบต สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์
ปกติแล้วระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 2 ปี แต่การ ที่ชาร์จแบตมือถือในรถยนต์ จะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงเหลือประมาณ 15-18 เดือน และเมื่อแบตเสื่อม ก็จะทำให้สตาร์ทรถติดยากขึ้นนั่นเอง โดยเฉพาะหากเรามีการใช้งานโทรศัพท์มือถือระหว่างที่กำลังชาร์จอยู่ โทรศัพท์มือถือก็จะดึงกระแสไฟฟ้าจากรถยนต์มาใช้เป็นจำนวนมาก ทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้นครับ
ผลเสียจากการ ชาร์จแบต สำหรับโทรศัพท์มือถือ
ส่วนมากแล้วเราจะทำการชาร์จผ่านUSB ในรถ หรือไม่ก็ที่จุดบุหรี่ในรถ ซึ่ง USB ในรถนั้นถูกออกแบบมาให้จ่ายกระแสได้น้อย อยู่ที่ราวๆ 0.5A เพื่อเอาไว้เสียบ USB ไดร์ฟ หรือโทรศัพท์มือถือเพื่อฟังและดาวน์โหลดเพลง มากกว่าจะไว้ใช้สำหรับชาร์จแบตโดยตรง จึงทำให้ชาร์จช้ากว่าการเสียบที่จุดบุหรี่มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโทรศัพท์มือถือของเพื่อนๆ มีขนาดใหญ่ หรือเป็นแท็บเล็ตแล้วก็จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยครับ เพราะกระแสไฟฟ้าที่ถูกปล่อยผ่านที่จุดบุหรี่นั้นสามารถจ่ายไฟได้ถึง 1A หรือ 2.1A ซึ่งมีปริมาณมากพอจะไปเลี้ยงแบตเตอรี่มือถือได้ อย่างไรก็ตาม ระบบไฟฟ้าที่ถูกจ่ายผ่านแบตเตอรี่รถยนต์นั้นค่อนข้างจะผันผวนไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดการกระชากเมื่อระบบแอร์ทำงาน หรือหยุดชะงักได้
ที่มา : ชาร์จแบต ในรถ แบตเสื่อม ไหม ทำไมไม่ควรชาร์จ – CARSOME Thailand